เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เชื่อว่า อังกฤษจะเรียกตัวลูกทีมของเขาติดทีมชาติอย่างแน่นอนหากยังรักษาฟอร์มกันน่าทึ่งแบบเกมพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมาเอาไว้ได้

  เดวิด มอยส์ ท้าให้ จาร์ร็อด โบเว่น รักษาฟอร์มอันน่าทึ่งของเขาไว้หลังจากที่ช่วยให้เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เข้าสู่ตำแหน่งท็อปโฟร์และเพิ่มโอกาสในทีมชาติอังกฤษของเขาจากเกมชนะนอริช ซิตี้ 2-0 ในศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนที่ผ่านมา (พุธที่ 12 มกราคม 2565)

           ประตูที่เจ็ดและแปดของฤดูกาลของโบเว่น ช่วยให้ทัพเดอะ แฮมเมอร์ส คว้าชัยชนะในพรีเมียร์ ลีก ติดต่อกันเป็นเกมที่สาม เสียงเรียกร้องให้เจ้าตัวถูกเรียกตัวติดทัพสิงโตคำรามนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ โดย 8 แอสซิสต์ของเขาก็หมายความว่าอดีตปีกฮัลล์ ซิตี้ รายนี้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับ 16 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในบรรดาผู้เล่นอังกฤษในลีกสูงสุด

           “เมื่อผู้เล่นมาจากแชมเปี้ยนชิพ คุณหวังว่าพวกเขาจะพัฒนาและจาร์ร็อดก็ทำได้ดีมาก” มอยส์กล่าว “ตอนนี้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเขาได้เพิ่มจำนวนแอสซิสต์และเขาเริ่มที่จะหาตาข่ายเจออีกครั้ง เป็นเรื่องดีที่เราได้กระจายการยิงประตูไปทั่วทั้งทีมและเขาได้สร้างความแตกต่างอย่างมาก" "เมื่อคุณดูการแข่งขันของอังกฤษ มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แจ็ค กรีลิช, เจดอน ซานโช่ มันคือการตัดสินใจสำหรับแกเร็ธ เซาธ์เกต" "แต่เขาเข้าใกล้กับคนที่บอกว่าเราควรดูเขาและดูว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง ผมไม่คิดว่าเขาจะอยู่ไกลเกินไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเล่นให้เวสต์แฮมได้ดีต่อไป"

 การเผชิญหน้ากันในลอนดอน สเตเดียมนี้ เป็นเกมที่ถูกเลื่อนมาจากเดือนธันวาคมเมื่อนอริชเจอปัญหาโควิด-19 และอาการบาดเจ็บ และพวกเขาอาจรู้สึกว่าอาจมีโอกาสที่ดีขึ้นในการเจอกับเวสต์แฮมตอนนี้ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นเจ้าถิ่นที่ทำได้ดีกว่า โดยที่โบเว่นสามารถส่งลูกตุงตาข่ายได้ตั้งแต่นาทีที่ 36 ที่เจ้าตัวกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตูบอลโค้งไม่โดนใครก่อนตกพื้นเบียดเสาสองเข้าไป ทว่าหลังเช็คกับ VAR แล้วพบว่านิโคล่า วลาซิช อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนหน้านั้น และ มีส่วนเข้าไปขวางการเล่นของผู้เล่นนอริชทำให้ไม่เป็นประตูและสกอร์ยัง 0-0 เหมือนเดิม

           อย่างไรก็ตามโบเว่น พระเอกของเกมก็เหมาคนเดียวสองเม็ดคือในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 42 และในท้ายครึ่งหลังนาทีที่ 83 พา เวสต์แฮม ไล่อัด นอริช 2-0 ซิวสามแต้มแซง อาร์เซนอล ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตาราง โดยมี 37 แต้มทิ้งปืนใหญ่ที่หล่นมาที่ 5 สองคะแนนแต่แข่งมากกว่าหนึ่งเกม ส่วนทัพ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" แพ้เป็นนัดที่ 14 จาก 20 นัดจมบ๊วยของตารางมี 10 คะแนนต้องลุ้นหนีตายต่อไป